การถวายสังฆทาน

การถวายสังฆทานนี้มีอานิสงส์มาก ความจริงถ้าจะพูดถึงอานิสงส์กันจริง ๆ ละก็ รู้สึกว่าจะมากกว่าจัดงานที่บ้านที่วัดตั้งเยอะแยะ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าถวายสังฆทานเราทํากันแบบเงียบ ๆ ไม่มีกังวล การบําเพ็ญกุศลแต่ละคราวถ้ามีกังวลมากอานิสงส์มันก็น้อย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าจิตที่เราเข้าสู่กุศลมันห่วงงานอื่นมากกว่า ไม่ตั้งจิตโดยเฉพาะ

การถวายสังฆทาน คําว่า สังฆทาน ก็หมายความว่า ถวายแก่สงฆ์ในหมู่เป็นหมู่ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ตามพระวินัยท่านเรียกกันว่าคณะสงฆ์ ถ้าต่ำกว่านั้นเป็นคณะบุคคล ถ้าบุคคลเดียวเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ทานโดยเฉพาะ

ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์เป็นหมู่นี้มีอานิสงส์มาก ตามที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสลําดับทานไว้ ๑๔ อย่าง คือ

การให้ทานแก่สัตว์สัตว์เดรัจฉาน มีอานิสงส์ ๑๐๐ เท่า หมายความว่าเราให้ทานแก่สัตว์เดรัจฉาน และก็ย่อมไปรับผลสมบูรณ์ในชาติต่อไป เป็นเทวดา ๑๐๐ ชาตินั่นเอง ถ้าให้ทานด้วยจิตเมตตานะ การให้ทานแก่สัตว์เดรัจฉาน ๑๐๐ ครั้ง ก็มีอานิสงส์ไม่เท่ากับให้ทานกับคนที่ไม่มีศีลเลย ๑ ครั้ง ทั้งนี้ก็เพราะว่า คนที่เกิดมาเป็นคนได้ก็เพราะอานิสงส์แห่งศีล หรือว่ากรรมบท ๑๐ เป็นปัจจัย สําหรับสัตว์เดรัจฉานยังอยู่ในเกณฑ์ของอบายภูมิ จึงมีอานิสงส์ไม่เท่ากัน ทีนี้การให้ทานแก่คนที่มีศีล ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังมีอานิสงส์ไม่เท่ากับให้ทานแก่ท่านที่มีศีลบริบูรณ์ ๑ ครั้ง การให้ทานแก่ท่านที่มีศีลบริบูรณ์ ๑ ครั้ง ก็มีอานิสงส์ไม่เท่ากับท่านที่ปฏิบัติตนเพื่อพระโสดาปัตติมรรค ๑ ครั้ง

พระโสดาปัตติมรรค

บุคคลที่ปฏิบัติตนเพื่อพระโสดาปัตติมรรคก็คือคนที่เจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน จะเป็นคนก็ตาม จะเป็นเณรก็ตาม จะเป็นพระก็ตาม ตั้งใจปฏิบัติไปด้วยจิตบริสุทธิ์ ตั้งใจปฏิบัติไปด้วยจิตศรัทธาแท้หวังความดีเป็นเบื้องหน้า มีอารมณ์ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นอารมณ์ หมายความว่า เราปฏิบัติกันนี่ เราทํากันนี่ เราหวังพระนิพพาน ไม่ใช่ปฏิบัติกันหลอกชาวบ้านว่า เราเป็นนักสมถวิปัสสนา

การปฏิบัติอย่างนี้ถึงแม้ว่ายังไม่ได้ฌานโลกีย์ก็ตาม ท่านเรียกว่าปฏิบัติเพื่อพระโสดาปัตติมรรค คือทําเพื่อเข้าถึงพระโสดาปัตติมรรค ท่านเรียกว่าท่านปฏิบัติเพื่อพระโสดาปัตติมรรค การถวายทานหรือให้ทานแก่ท่านที่ปฏิบัติเพื่อพระโสดาปัตติมรรค ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังมีผลไม่เท่ากับถวายทานกับพระโสดาปัตติมรรค ๑ ครั้ง

ถวายทานแก่พระพุทธเจ้า มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน

การถวายทานแก่พระโสดาปัตติมรรค ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังมีผลไม่เท่ากับถวายทานพระโสดาปัตติผล ๑ ครั้ง ถวายทานกับพระโสดาปัตติผล ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังมีผลไม่เท่ากับถวายแก่พระสกิทาคามีมรรค ๑ ครั้ง

ถวายทานแก่พระสกิทาคามีมรรค ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังมีผลไม่เท่ากับถวายทานกับพระสกิทาคามีผล ๑ ครั้ง ถวายทานแก่พระสกิทาคามีผล ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานพระอนาคามีมรรค ๑ ครั้ง

ถวายทานแก่พระอนาคามีมรรค ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานแก่พระอนาคามีผล ๑ ครั้ง ถวายทานแก่พระอนาคามีผล ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานแก่พระอรหัตมรรค ๑ ครั้ง

ถวายทานแก่พระอรหัตมรรค ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานแก่พระอรหัตผล ๑ ครั้ง ถวายทานแก่พระอรหัตผล ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานแก่พระปัจเจก พุทธเจ้า ๑ ครั้ง

ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายทานแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ ครั้ง ถวายทานแก่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง

…ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลําบากขัดสน คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่เกิดที่นั่น….

ทีนี้ถวายสังฆฑาน ๑๐๐ ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน ๑ ครั้ง

การก่อสร้างเช่นสร้างส้วม ศาลาหน้าวัด ศาลาการเปรียญ กุฏิ โบสถ์ วิหาร เป็นต้น อย่างนี้เขาเรียกว่าวิหารทานทั้งนั้น เวลานี้ท่านทั้งหลายถวายทานที่เรียงลําดับมาตั้งแต่ต้น ถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเรียกกันว่าปาฏิปุคคลิกทานมีผลไม่เสมอกัน

ผลของสังฆทาน

เวลานี้ท่านถวายสังฆทาน การถวายสังฆทาน ๑ ครั้งในชีวิต และก็ถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์ มีศรัทธาแท้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า ผลของสังฆทานนี้จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวายเกิดไปทุกชาติ ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไม่มี

ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลําบากขัดสน คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่เกิดในที่นั่น ผลที่ให้ไปไกลมาก กล่าวว่าแม้แต่พุทธญาณเอง ก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวายสังฆทาน คําว่าไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน หมายความว่าแม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน บําเพ็ญบารมีแล้ว ๆ เกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด นี่เป็นอํานาจของการถวายสังฆทาน

ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระมีผลไม่เสมอกันอยู่อย่างหนึ่ง คือหมายความว่า ถวายทานแก่พระที่มีจิตกําลังฟุ้งซ่านไปด้วยอํานาจของนิวรณ์ ๕ ประการ อย่างนี้เราถวายกี่หมื่นกี่แสน อานิสงส์มันก็ไม่มาก จะถวายสักเท่าไร อานิสงส์ได้แต่ว่าได้ไม่มาก

ถ้าหากถวายแก่ท่านผู้ปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าหากเข้าถึงจิตบริสุทธิ์ เรื่องบริสุทธิ์แค่ไหนก็ช่าง อย่างน้อยที่สุดก็มีขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ บางท่านก็เข้าถึงฌาณสมาบัติ บางท่านที่เป็นพระอริยเจ้าก็เข้าผลสมาบัติเป็นต้น อย่างนี้มีผลมาก

สุเมธดาบส ปรารถนาพุทธภูมิ

ตัวอย่างในสมัยที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ปัจจุบันปรากฏลงไปเกิดเป็นสุเมธดาบส ในสมัยนั้น พระปทุมมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นในโลก เมื่อท่านสุเมธดาบสทราบว่าพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้ว จึงได้อารธนาองค์สมเด็จพระประะทืบแก้วให้มาโปรด เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมไปด้วยพระสงฆ์ ๒๐,๐๐๐ องค์เป็นบริวารเสด็จมา ท่านสุเมธดาบสก็ถึงทางที่จะข้ามลําธาร ก็ทอดกายลงไปเป็นสะพานให้พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเดินเหยียบบนตัวข้ามลําธารไป แต่ด้วยอํานาจบารมีขององค์สมเด็จพระจอมไตรมีมาก จึงบันดาลให้ร่างกายของท่านสุเมธดาบสไม่รู้สึกว่ารับน้ำหนักอะไรเลย

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงที่เขาจัดให้ประทับ ท่านก็ประทับตามที่ แล้วท่านสุเมธดาบสคือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็เข้าไปกราบนมัสการท่านพระปทุมมุตตระพระพุทธเจ้า แล้วกราบทูลว่า

” การที่ข้าพระพุทธเจ้าบําเพ็ญบารมีในป่ากับพวกบริวารทั้งหลายก็ดี หรือว่าการที่อาราธนาองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามาในครั้งนี้ก็ดี เพื่อถวายทานและฟังเทศน์ ทั้งนี้ก็มีความประสงค์อยู่อย่างหนึ่งคือ ต้องการปฏิบัติตนให้เข้าถึงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล ”

อานิสงส์ของนิโรธสมาบัติ และ ผลสมาบัติ

เมื่อองค์สมด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมมุตตระได้ทราบ ฉะนั้นเวลาพระสุเมธดาบสถวายทาน เมื่อถวายทานเสร็จแทนที่ท่านจะฉัน สมเด็จพระปทุมมุตตระเข้านิโรธสมาบัติ พระอรหันต์ทั้งหมดเข้าผลสมาบัติทําจิตให้บริสุทธิ์ มีความสุขตามผลที่ตนพึงได้ เมื่อได้เวลาสมควร สมเด็จพระปทุมมุตตระพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงถอนจากนิโรธสมาบัติ พระอรหันต์ทั้งหมดก็ถอนจากผลสมาบัติ ฉันภัตตาหารที่มาถวาย

ในตอนนี้มีคนทูลถามองค์สมเด็จพระจอมไตรที่เล่าถึงเรื่องนี้ให้ทราบว่าทําไมสมเด็จพระปทุมมุตตระ และพระอรหันต์ทั้งหลายจึงทําอย่างนั้น ท่านทรงตอบว่าการที่สมเด็จพระปทุมมุตตระก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายทําแบบนั้นก็ดี ทั้งนี้เพราะว่าท่านสุเมธดาบสต้องการปรารถนาพุทธภูมิ คือเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าหากว่าพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี เมื่อรับประเคนแล้วฉันทันที อานิสงส์ของสุเมธดาบสก็มีอานิสงส์มากที่ถวายทาน เพราะองค์ต้นเป็นพระพุทธเจ้า องค์ที่เป็นประธาน นอกจากนั้นก็เป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ทั้งหมด แล้วปรากฏว่าการถวายทานครั้งนี้ก็เป็นสังฆทาน มีอานิสงส์ประเสริฐที่สุด

เหตุที่ทําให้สําเร็จพระโพธิญาณรวดเร็ว

ทว่าองค์สมเด็จพระจอมไตรพระปทุมมุตตระ ยังเห็นว่าเจตนาของท่านสุเมธดาบสมีกําลังสูงมาก คือต้องการเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ฉะนั้นองค์สมเด็จพระพิชิตมารจึงคิดว่า ถ้าเราจะให้สุเมธดาบสมีอานิสงส์เท่าปัจจุบันที่เขาเคยรับกัน กําลังของทานยังต่ำเกินไป ถ้าองค์สมเด็จพระจอมไตรเข้านิโรธสมาบัติ พระอรหันต์ทั้งหลายเข้าผลสมาบัติก็ดี ชั่วเวลาเล็กน้อยจิตจะบริสุทธิ์ผ่องใสเป็นพิเศษ ทีนี้อานิสงส์ที่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ในสมัยที่เป็นพระสุเมธดาบสจะพึงได้ ก็มีกําลังมากเป็นพิเศษตั้งหลายแสนเท่า ทําให้กําลังที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าและพระอรหันต์ให้นั้น มีกําลังที่ท่านสุเมธดาบสจะมีผลเข้าถึงความเป็นพระพุทธเจ้ารวดเร็วกว่า เพราะมีอานิสงส์สูงกว่ามาก

..องค์สมเด็จพระทรงธรรม์ กล่าวว่า ท่านใดผู้ใดทําจิตเข้าสู่ระดับของความเมตตาก็ดี สมาธิก็ตาม จิตว่างจากกิเลส ขณะหนึ่ง ท่านถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่ว่างจากฌาน….

นี่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านเทศน์สอนไว้อย่างนี้ ฉะนั้นเวลานี้ท่านทั้งหลาย ตั้งใจถวายสังฆทาน หลังจากที่เจริญพระกรรมฐานแล้ว ท่านจะมีผลในการปฏิบัติพระกรรมฐานเพียงใดนั้นไม่สําคัญ เพราะองค์สมเด็จพระทรงธรรม์กล่าวว่า

“ท่านผู้ใดทําจิตเข้าสู่ระดับของความเมตตาก็ดี สมาธิก็ตาม จิตว่างจากกิเลสขณะหนึ่ง ท่านถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่ว่างจากฌาน”

นี่อย่างน้อยก็ถือว่าท่านให้แก่บุคคลผู้ทรงฌานในขณะนี้จิตบริสุทธิ์ แล้วหากว่าที่ท่านเจริญแล้วเก่า ๆ สามารถจะทรงฌานได้ดีก็ตาม หากว่าจิตเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าหรือเข้าสมาบัติสูงสุด อานิสงส์ก็เพิ่มเป็นหลายแสนเท่า การถวายนี้ก็มีอานิสงส์ใหญ่ จะกล่าวว่ามีเพียงไหนก็บรรยายไม่ได้ ทั้งนี้เพราะองค์สมเด็จพระจอมไตรบอกไว้แล้วว่า การถวายสังฆทานครั้งหนึ่งแม้แต่พุทธญาณขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็มองไม่เห็นที่สุด

เป็นอันว่าผลของทานที่ท่านทําแล้วในวันนี้ แม้ท่านบําเพ็ญบารมีไปอีกกี่แสนชาติ ก็ตาม ก็จะดลบันดาลให้ท่านที่ถวายทานจะไม่พบกับความยากจนเข็ญใจ แล้วต่อไปถึงแม้ว่าท่านทั้งหลายผู้เป็นเจ้าของทานเข้าถึงพระนิพพานแล้ว อานิสงส์นี้ก็ยังไม่หมด ปรากฏตามที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้ว

จาก คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒ หน้า ๓-๘

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *